พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากข้อมูลประวัติศาสตร์บอกเล่า จัดพิมพ์โดย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ผ่านเอกสารทางประวัติศาสตร์ และการสัมภาษณ์เชิงลึกบุคคลในพระราชวงศ์ ข้าราชบริพาร และผู้ใกล้ชิดร่วมสมัยของพระองค์ อาทิ หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา, หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์, พลโทหม่อมเจ้าชิดชนก กฤดากร, หม่อมราชวงศ์บุตรี วีระไวทยะ, รองศาสตาจารย์ ม.ร.ว.พฤทธิสาณ ชุมพล, ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์, คุณหญิงมณี สิริวรสาร และนายมนตรี ตราโมท จึงเปรียบเสมือน “มรดกแห่งความทรงจำ” ที่ทำให้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มีชีวิต มีอารมณ์ และเติมเต็มข้อมูลเชิงวิชาการให้หลากหลายมิติมากขึ้น
ผู้อ่านจะได้เห็นภาพของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงสนพระราชหฤทัยในระบอบประชาธิปไตยและทรงพยายามปรับสยามให้ก้าวทันโลกสมัยใหม่ ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา และวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีสิทธิอย่างเท่าเทียม ตลอดจนเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ซึ่งสะท้อนพระราชอัธยาศัยอันสุขุม รอบคอบ และยึดมั่นในสันติวิธี นอกจากมิติทางการเมืองแล้ว หนังสือยังเผยให้เห็นพระอัจฉริยภาพทางดนตรีไทย ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ 3 เพลง ได้แก่ เพลงราตรีประดับดาว เถา, เพลงเขมรลออองค์ เถา และเพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง 3 ชั้น ซึ่งยังคงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน รวมถึงเรื่องราวชีวิตส่วนพระองค์ ทั้งพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย ความรักความผูกพันกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีคู่พระบารมี และช่วงชีวิตหลังสละราชสมบัติในต่างประเทศ
หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 7 ในฐานะพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในระบอบประชาธิปไตย ผู้ทรงเป็นทั้งนักปกครองที่เปี่ยมด้วยพระวิสัยทัศน์ และนักคิดผู้มีอุดมคติที่มุ่งมั่นจะพัฒนาชาติให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ ดั่งเช่นคำกล่าวในหนังสือ A History Of South-East Asia ว่า “วันหนึ่งในกาลภายหน้า คนไทยจะน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นมหาปรัชญาเมธี”
หากสนใจอ่านหนังสือเล่มนี้ สามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ ห้องสมุด มสธ.
และสามารถอ่านฉบับออนไลน์ ได้ที่ เว็บเพจพระปกเกล้าศึกษา